by Anga Team | 3 Mar 2025 | General
ท่ามกลางเครื่องมือการตลาดที่หลากหลาย Bulk SMS โดดเด่นด้วยความสามารถในการเข้าถึงลูกค้าได้โดยตรงและรวดเร็ว ด้วยอัตราการเปิดอ่านสูงถึง 98% และไม่จำเป็นต้องใช้อินเทอร์เน็ต ทำให้ธุรกิจที่ประสบปัญหายอดขายตกสามารถใช้ Bulk SMS เป็นเครื่องมือกระตุ้นยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่สาเหตุจะเป็นอะไร deeSMSX จะมาอธิบายเรื่องนี้ให้เอง
Bulk SMS คืออะไร ทำไมถึงช่วยกระตุ้นยอดขายได้
Bulk SMS คือ บริการส่งข้อความสั้นไปยังผู้รับจำนวนมากในครั้งเดียว โดยไม่ต้องพึ่งอินเทอร์เน็ต ทำให้ผู้รับสามารถเห็นข้อความได้ทันทีแม้ไม่มีการเชื่อมต่อออนไลน์ ด้วยต้นทุนที่ต่ำและอัตราการตอบสนองสูง Bulk SMS จึงเป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นยอดขาย และสร้างการรับรู้แบรนด์ได้เป็นอย่างดี
5 เคล็ดไม่ลับ ใช้ Bulk SMS อย่างไรเพื่อกระตุ้นยอดขาย
การใช้ Bulk SMS ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดนั้นต้องมีกลยุทธ์ที่ชัดเจน ไม่ใช่เพียงแค่ส่งข้อความออกไปเท่านั้น แต่ต้องเข้าใจลูกค้าและออกแบบแคมเปญอย่างมีเป้าหมาย มาดูวิธีที่จะช่วยให้ Bulk SMS ของคุณประสบความสำเร็จกัน
1. เจาะตลาดด้วยการแบ่งกลุ่มลูกค้า
ความสำเร็จของ Bulk SMS อยู่ที่การเข้าถึงคนที่ใช่ ด้วยข้อความที่ใช่ ในเวลาที่เหมาะสม เพราะการแบ่งกลุ่มลูกค้าตามพฤติกรรมการซื้อ ความสนใจ หรืออายุ จะช่วยให้คุณออกแบบ Bulk SMS ที่ตรงใจ และเพิ่มโอกาสในการกระตุ้นยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ออกแบบข้อความ SMS ให้ทรงพลัง
ข้อความ Bulk SMS ที่ดีต้องกระชับ ชัดเจน และมีจุดหมาย ใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายและสร้างความรู้สึกเร่งด่วน เช่น “ด่วน! โปรโมชันพิเศษวันนี้เท่านั้น” พร้อมกับลิงก์ หรือรหัสส่วนลดที่ใช้งานง่าย ทำให้ Bulk SMS ของคุณไม่เพียงแค่อ่านแล้วผ่านไป แต่นำไปสู่การซื้อขายจริง
3. เลือกช่วงเวลาที่เหมาสมในการส่ง SMS
การส่ง Bulk SMS ในช่วงเวลาที่เหมาะสมเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ หลีกเลี่ยงการส่งในช่วงดึกหรือเช้าเกินไป วิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมลูกค้าเพื่อหาช่วงเวลาที่ลูกค้ามีแนวโน้มตอบสนองสูงสุด ทำให้ SMS ที่คุณส่งไปถูกเปิดอ่านได้ง่ายขึ้น และนำไปสู่การตัดสินใจซื้อในที่สุด
4. สร้างแคมเปญเพื่อกระตุ้นให้เกิดการซื้อ
การใช้ Bulk SMS ในการสร้างแคมเปญโปรโมชันแบบมีกำหนดเวลาจะช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ เช่น ส่วนลดจำกัดเวลา, โคดพิเศษเฉพาะผู้รับ SMS หรือสิทธิพิเศษมีจำนวนจำกัด สร้างความรู้สึกเร่งด่วนที่ทำให้ลูกค้าไม่อยากพลาดโอกาส ทำให้ Bulk SMS กลายเป็นตัวกระตุ้นยอดขายที่มีประสิทธิภาพ
5. อัปเดตข่าวสารและโปรโมชันไม่ให้ขาด
การใช้ Bulk SMS เพื่อแจ้งข่าวสารและโปรโมชันล่าสุดอย่างสม่ำเสมอช่วยให้แบรนด์อยู่ในใจลูกค้าตลอดเวลา แต่ต้องระวังไม่ให้ส่งถี่เกินไปจนกลายเป็นการรบกวน การส่ง Bulk SMS ที่มีคุณค่าและตรงความต้องการจะทำให้ลูกค้ารู้สึกพิเศษ และรอคอยข้อความจากคุณ
สิ่งที่ต้องระวังในการใช้ Bulk SMS ทำการตลาด
แม้ Bulk SMS จะเป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง แต่การใช้อย่างไม่เหมาะสมอาจส่งผลเสียต่อแบรนด์ได้ ควรคำนึงถึงความถี่ในการส่ง เนื้อหาที่มีคุณค่า และการเคารพความเป็นส่วนตัวของลูกค้า เพื่อให้ Bulk SMS เป็นช่องทางการตลาดที่สร้างความประทับใจ และก่อให้เกิดยอดขายอย่างยั่งยืน หากยังไม่เห็นภาพ เราจะมายกตัวอย่างให้เข้าใจกันมากขึ้น
ระวังความถี่ในการส่ง : การส่ง Bulk SMS มากเกินไปอาจทำให้ลูกค้ารู้สึกรำคาญ และนำไปสู่การบล็อกหมายเลขของคุณ จนสุดท้ายอาจเสียลูกค้าไปอย่างถาวรได้ จึงควรเว้นระยะในการส่งออกไปบ้าง
เคารพเวลาส่วนตัวของลูกค้า : หลีกเลี่ยงการส่ง Bulk SMS ในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม เช่น กลางดึกหรือเช้าเกินไป ซึ่งอาจสร้างความรำคาญให้กับผู้รับ
ใช้ภาษาที่เหมาะสม : Bulk SMS ที่มีข้อความกำกวมหรือดูเหมือนสแปมอาจทำให้แบรนด์ดูไม่น่าเชื่อถือ ควรใช้ภาษาที่เป็นมืออาชีพและตรงไปตรงมา
ให้ทางเลือกในการยกเลิกการรับข้อความ : การให้ลูกค้าสามารถเลือกที่จะไม่รับ Bulk SMS จากคุณได้เป็นการแสดงความเคารพและสร้างความไว้วางใจในระยะยาว
จะเห็นได้ว่า Bulk SMS เป็นเครื่องมือการตลาดที่ทรงประสิทธิภาพในยุคดิจิทัล ด้วยความสามารถในการเข้าถึงลูกค้าโดยตรงและอัตราการตอบสนองที่สูง ธุรกิจที่สามารถปรับใช้กลยุทธ์ Bulk SMS อย่างชาญฉลาดจะมีโอกาสเพิ่มยอดขายและสร้างความภักดีต่อแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และหนึ่งในบริการที่จะช่วยให้คุณทำ SMS Marketing ได้อย่างมีประสิทธิภาพก็คือ deeSMSX ที่มีบริการส่ง SMS คุณภาพสูง รองรับการส่งได้เป็นจำนวนมาก โดยมีค่าบริการเริ่มต้นที่ 0.15 บาท / ข้อความ ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 02-095-5168 Line @deecom หรือ เฟซบุ๊ก deeSMSX
by Anga Team | 3 Mar 2025 | General
การสื่อสารผ่าน SMS คือหนึ่งในช่องทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพสูงในราคาที่คุ้มค่า แต่หลายธุรกิจยังสับสนระหว่าง กับ SMS Two Way ว่าแบบไหนเหมาะกับธุรกิจมากกว่ากัน deeSMSX จะพามาทำความเข้าใจความแตกต่าง และความคุ้มค่าของ SMS ทั้งสองแบบ เพื่อเลือกใช้ให้เหมาะกับเป้าหมายทางธุรกิจของคุณกัน
พาทำความเข้าใจ SMS One Way กับ Two Way คืออะไร
ในการทำ SMS Marketing คือ การส่งข้อความสั้น ๆ เพื่อสื่อสารกับลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 2 รูปแบบหลักตามลักษณะการสื่อสาร ได้แก่ SMS One Way และ SMS Two Way ที่มีความแตกต่างกันในการใช้งานและประโยชน์ที่ได้รับ
SMS One Way คืออะไร
SMS One Way คือ การส่งข้อความแบบทางเดียวจากผู้ส่งไปยังผู้รับเท่านั้น เป็นรูปแบบ Push หรือ Broadcasting ที่ธุรกิจเป็นฝ่ายส่งข้อความไปหาลูกค้า เช่น การแจ้งโปรโมชัน ส่วนลด ข่าวสารสำคัญ หรือเตือนวันหมดอายุบัตรสมาชิก โดยไม่ต้องการการตอบกลับจากผู้รับ
ข้อดีของ SMS One Way มีอะไรบ้าง
ราคาถูกและต้นทุนการดำเนินการต่ำกว่า SMS Two Way
สามารถส่งในปริมาณมากพร้อมกันได้อย่างรวดเร็ว (Bulk SMS)
เหมาะกับการแจ้งข้อมูลข่าวสาร โปรโมชัน หรือการยืนยันตัวตนผ่าน OTP
ง่ายต่อการจัดการและไม่ต้องมีระบบซับซ้อนในการรองรับการตอบกลับ
วัดผลได้จากรายงานการส่งสำเร็จและไม่สำเร็จอย่างชัดเจน
SMS Two Way คืออะไร
SMS Two Way คือ การสื่อสารสองทางที่เปิดโอกาสให้ผู้รับสามารถตอบกลับข้อความได้ ระบบจะมีการส่งข้อความตอบรับอัตโนมัติกลับไปยังผู้รับ เป็นรูปแบบการสื่อสารแบบ Pull ที่ดึงให้ลูกค้าตอบสนอง ตัวอย่างเช่น การโหวต การร่วมกิจกรรมชิงโชค หรือการตอบคำถาม
ข้อดีของ SMS Two Way มีอะไรบ้าง
สร้าง Engagement กับลูกค้าได้มากกว่าแบบทางเดียว
เก็บข้อมูลและความคิดเห็นของลูกค้าได้โดยตรง
สามารถจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายแบบมีส่วนร่วมได้ เช่น การตอบคำถามชิงรางวัล
วัดผลตอบรับของแคมเปญได้ชัดเจนจากอัตราการตอบกลับ
สร้างความประทับใจและความผูกพันกับแบรนด์ได้มากกว่า
เปรียบเทียบต้นทุนในการใช้ SMS ทั้ง 2 แบบ
การเลือกใช้ SMS แบบใดนั้น ต้นทุนเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจของธุรกิจ โดยทั้งสองแบบมีโครงสร้างต้นทุนที่แตกต่างกัน ซึ่งส่งผลต่อความคุ้มค่าในการใช้งานสำหรับแต่ละวัตถุประสงค์
ต้นทุนของ SMS One Way
SMS One Way มีต้นทุนต่ำกว่าเมื่อเทียบกับ SMS Two Way เนื่องจากไม่ต้องมีระบบรองรับการตอบกลับ ราคาเริ่มต้นประมาณ 0.15-0.30 บาทต่อข้อความ ขึ้นอยู่กับปริมาณการสั่งซื้อ โดยยิ่งสั่งจำนวนมาก ราคาต่อหน่วยก็จะยิ่งถูกลง ทำให้เหมาะกับการทำการตลาดในวงกว้าง หรือการส่งข้อความในปริมาณมาก
ต้นทุนของ SMS Two Way
SMS Two Way มีต้นทุนสูงกว่า เพราะต้องลงทุนในระบบที่ซับซ้อนมากขึ้นเพื่อรองรับการตอบกลับอัตโนมัติ จำเป็นต้องมี Short Code (เบอร์พิเศษ 5-7 หลัก) ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนและค่าบำรุงรักษา นอกจากนี้ยังต้องจ่ายค่าบริการในการรับข้อความตอบกลับด้วย โดยทั่วไปราคาจะเริ่มต้นที่ประมาณ 0.50-1.50 บาทต่อข้อความ ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการและแพ็กเกจที่เลือก
จะเห็นได้ว่า SMS คือเครื่องมือการตลาดที่ทรงพลังและยังคงได้รับความนิยมในปัจจุบัน ทั้ง SMS One Way และ SMS Two Way ต่างมีข้อดีและการใช้งานที่เหมาะสมแตกต่างกัน โดย SMS One Way เหมาะกับการสื่อสารข้อมูลทั่วไปและข้อเสนอทางการตลาดที่ไม่ต้องการการตอบกลับ ในขณะที่ SMS Two Way เหมาะกับกิจกรรมที่ต้องการการมีส่วนร่วมและสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าธุรกิจที่สามารถปรับกลยุทธ์การตลาดและเลือกใช้ SMS ได้อย่างเหมาะสมกับวัตถุประสงค์และงบประมาณ จะสามารถเข้าถึงลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะ SMS Marketing คือ ช่องทางที่เข้าถึงผู้บริโภคได้ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ในต้นทุนที่คุ้มค่า ซึ่งทาง deeSMSX ก็มีบริการส่ง SMS คุณภาพสูง รองรับการส่งได้เป็นจำนวนมาก โดยมีค่าบริการเริ่มต้นที่ 0.15 บาท / ข้อความ ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 02-095-5168 Line @deecom หรือ เฟซบุ๊ก deeSMSX
by Anga Team | 25 Feb 2025 | General
Marketing Funnel เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่นักการตลาดใช้ในการวางแผนกลยุทธ์ เพื่อพาธุรกิจไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ เปรียบเสมือนเส้นทางที่จะพาลูกค้าจากจุดเริ่มต้นไปสู่การตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการ แต่ประโยชน์ในการใช้เครื่องมือนี้จะมีอะไรบ้าง deeSMSX จะพาทุกคนมาทำความเข้าใจกัน
Marketing Funnel คืออะไร
Marketing Funnel คือ กระบวนการวางแผนการตลาดที่มีรูปแบบคล้ายกรวย โดยเริ่มจากส่วนบนที่กว้างและค่อย ๆ แคบลงในส่วนล่าง สะท้อนให้เห็นถึงจำนวนกลุ่มเป้าหมายที่จะค่อย ๆ ลดลงในแต่ละขั้นตอน ซึ่ง Marketing Funnel จะช่วยให้เราเข้าใจพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายในแต่ละช่วง และสามารถวางกลยุทธ์การตลาดได้อย่างเหมาะสม
รู้จักกับ 3 ระดับขั้นตอนที่ใช้แบ่ง Marketing Funnel
การทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายในแต่ละระดับของ Marketing Funnel เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถวางกลยุทธ์การตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้
TOFU (Top of Funnel) : กลุ่มเป้าหมายที่อยู่ในขั้นตอนการรับรู้และเริ่มรู้จักแบรนด์ เป็นกลุ่มที่มีจำนวนมากที่สุด ต้องการการสร้างความน่าสนใจ และการให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ
MOFU (Middle of Funnel) : กลุ่มที่เริ่มสนใจและพิจารณาสินค้าหรือบริการของคุณ ต้องการข้อมูลเชิงลึก และการเปรียบเทียบกับคู่แข่ง เพื่อประกอบการตัดสินใจ
BOFU (Bottom of Funnel) : กลุ่มที่พร้อมจะตัดสินใจซื้อ ต้องการข้อมูลที่จะช่วยยืนยันการตัดสินใจ เช่น โปรโมชัน ส่วนลด หรือข้อเสนอพิเศษต่าง ๆ
Marketing Funnel ช่วยอะไรในการสร้างแคมเปญการตลาด
Marketing Funnel เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้นักการตลาดสามารถวางแผน และดำเนินการแคมเปญได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีประโยชน์ในหลายด้าน ดังนี้
การวางกลยุทธ์ตามขั้นตอนต่าง ๆ ใน Funnel
ช่วยให้สามารถกำหนดกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับแต่ละขั้นตอนของ Funnel ตั้งแต่การสร้างการรับรู้ไปจนถึงการกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ ทำให้การทำการตลาดมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การเพิ่มประสิทธิภาพในการดึงดูดลูกค้า
ช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าในแต่ละขั้นตอน ทำให้สามารถปรับปรุงและพัฒนาวิธีการดึงดูดลูกค้าได้อย่างตรงจุด
ขั้นตอนการทำ Marketing Funnel มีอะไรบ้าง
เมื่อรู้ว่า Marketing Funnel ช่วยอะไรในการทำแคมเปญการตลาด ทีนี้เรามาดูขั้นตอนการทำกันต่อบ้างว่าต้องเริ่มอย่างไร
1. Awareness : สร้างการรับรู้
เป็นขั้นตอนแรกที่ต้องทำให้กลุ่มเป้าหมายรู้จักแบรนด์ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น โซเชียลมีเดีย การทำ SEO หรือการโฆษณา โดยมุ่งเน้นการนำเสนอคอนเทนต์ที่สร้างการรับรู้และความเข้าใจในแบรนด์
2. Consideration : กระตุ้นความสนใจ
ขั้นตอนที่ต้องสร้างความน่าสนใจและความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ ผ่านการนำเสนอข้อมูลที่มีคุณค่า เช่น บทความให้ความรู้ รีวิวสินค้า หรือการเปรียบเทียบกับคู่แข่ง
3. Conversion : กระตุ้นการตัดสินใจซื้อ
ขั้นตอนสำคัญที่ต้องกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อ ผ่านการนำเสนอโปรโมชัน ส่วนลด หรือข้อเสนอพิเศษต่าง ๆ รวมถึงการสร้างความมั่นใจในการตัดสินใจซื้อ
4. Loyalty : สร้างความภักดีของลูกค้า
ขั้นตอนสุดท้ายที่มุ่งเน้นการรักษาลูกค้าให้กลับมาซื้อซ้ำ ผ่านการสร้างความประทับใจในการใช้สินค้าหรือบริการ การให้สิทธิพิเศษ และการดูแลหลังการขาย
ตัวอย่างการใช้ Marketing Funnel ในธุรกิจ
ลองมาดูตัวอย่างการประยุกต์ใช้ Marketing Funnel ในธุรกิจ E-commerce ที่จะแสดงให้เห็นถึงการนำไปใช้จริงในแต่ละขั้นตอน
1. ขั้นสร้างการรับรู้
ในขั้นตอนแรก ธุรกิจ E-commerce มักเริ่มต้นด้วยการใช้โฆษณา Facebook Ads เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ ควบคู่กับการทำ SEO เพื่อให้เว็บไซต์ติดอันดับบน Google และสร้างคอนเทนต์บน TikTok เพื่อเพิ่มการรับรู้ในวงกว้าง การทำงานในขั้นนี้จะเน้นการสร้างการจดจำแบรนด์และดึงดูดความสนใจเบื้องต้น
2. ขั้นสร้างความสนใจ
เมื่อกลุ่มเป้าหมายเริ่มรู้จักแบรนด์แล้ว ขั้นต่อไปคือการสร้างความน่าเชื่อถือผ่านการจัดทำบทความรีวิวสินค้าแบบละเอียด นำเสนอคอนเทนต์วิดีโอสาธิตการใช้งานผลิตภัณฑ์ และแชร์ประสบการณ์จริงจากลูกค้าที่ใช้สินค้า ขั้นตอนนี้จะช่วยให้ลูกค้าเห็นคุณค่าและประโยชน์ที่จะได้รับจากสินค้าอย่างชัดเจน
3. ขั้นกระตุ้นการตัดสินใจ
การกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อทำได้โดยการนำเสนอโปรโมชันส่วนลดพิเศษ จัดแคมเปญ Flash Sale ในช่วงเวลาจำกัด และมอบสิทธิพิเศษสำหรับการสั่งซื้อครั้งแรก กลยุทธ์เหล่านี้จะช่วยเร่งกระบวนการตัดสินใจและสร้างความรู้สึกคุ้มค่าให้กับลูกค้า
4. ขั้นรักษาฐานลูกค้า
การรักษาลูกค้าที่มีอยู่ทำได้ผ่านการสร้างโปรแกรมสมาชิก VIP มอบสิทธิประโยชน์พิเศษผ่านการส่งอีเมลแจ้งโปรโมชันเฉพาะลูกค้าเก่า และจัดกิจกรรมพิเศษสำหรับลูกค้าประจำ การดูแลในขั้นตอนนี้จะช่วยสร้างความภักดีต่อแบรนด์และกระตุ้นให้เกิดการซื้อซ้ำในระยะยาวสรุปได้ว่า Marketing Funnel เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่เข้าใจง่าย และสามารถปรับใช้ในการเจาะกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดได้เป็นอย่างดี แต่นอกจากเครื่องมือที่ว่านี้แล้ว SMS Marketing จาก deeSMSX ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในราคาต้นทุนที่ต่ำ เริ่มต้นที่ 0.15 บาท / ข้อความ ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 02-095-5168 Line @deecom หรือ เฟซบุ๊ก deeSMSX
by Anga Team | 25 Feb 2025 | General
การบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพคือหัวใจสำคัญของความสำเร็จทางธุรกิจ ทีมขายจำเป็นต้องมีเครื่องมือที่ช่วยจัดการข้อมูลลูกค้า และติดตามโอกาสทางการขายได้อย่างเป็นระบบ เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับองค์กร CRM Software คือระบบที่จะเข้าช่วยในเรื่องนี้ แต่ระบบที่ว่านี้ดีอย่างไร deeSMSX จะมาอธิบายให้เอง
CRM Software คืออะไร
CRM Software คือ ซอฟต์แวร์บริหารลูกค้าสัมพันธ์ ที่ช่วยให้องค์กรสามารถจัดการข้อมูล และการติดต่อกับลูกค้าทั้งหมดจากจุดเดียว โดยรวบรวมข้อมูลการติดต่อ ประวัติการซื้อขาย และการปฏิสัมพันธ์ทั้งหมดระหว่างบริษัทกับลูกค้าไว้อย่างเป็นระบบ เพื่อง่ายต่อเข้าถึงจากทุกฝ่ายในองค์กร
รู้จักกับฟีเจอร์หลักของ CRM Software
การทำงานของ CRM Software ประกอบด้วยฟีเจอร์สำคัญที่ช่วยให้ทีมขาย และการตลาดสามารถบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาดูฟีเจอร์หลักที่สำคัญกัน
การเก็บข้อมูลลูกค้าและการติดตาม
ระบบ CRM ช่วยจัดเก็บข้อมูลลูกค้าทั้งหมดไว้ในที่เดียว ทั้งข้อมูลการติดต่อ ประวัติการซื้อขาย พฤติกรรมการใช้บริการ และการติดต่อสื่อสารต่าง ๆ ทำให้ทีมขายสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทันทีที่ต้องการ
การจัดการโอกาสขายและสถานะ
ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ทีมขายสามารถติดตาม และจัดการโอกาสทางการขายได้อย่างเป็นระบบ โดยสามารถกำหนดสถานะของลีด บันทึกการติดต่อ และคาดการณ์โอกาสในการปิดการขายได้อย่างแม่นยำ
การวิเคราะห์และรายงานข้อมูล
CRM Software มาพร้อมเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลที่ช่วยให้ผู้บริหาร และทีมขายสามารถดูภาพรวมของยอดขาย ติดตามประสิทธิภาพการทำงาน และวิเคราะห์แนวโน้มตลาดได้อย่างแม่นยำ
CRM Software มีประโยชน์อย่างไรต่อธุรกิจ
การนำ CRM Software มาใช้ในองค์กรสามารถช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างรวดเร็ว และลดปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ดังนี้
การบริหารข้อมูลลูกค้าให้เป็นระเบียบ
ช่วยจัดระเบียบข้อมูลลูกค้าทั้งหมดไว้ในที่เดียว ทำให้ทีมขายสามารถค้นหา และเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ลดความซ้ำซ้อน และความผิดพลาดในการจัดการข้อมูล
การสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าเพื่อเพิ่มโอกาสการขาย
ด้วยข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นระบบ ทีมขายสามารถเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น นำเสนอสินค้าและบริการได้ตรงใจ และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง
การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจที่แม่นยำ
ระบบ CRM ช่วยให้ผู้บริหารสามารถวิเคราะห์ข้อมูลการขาย และพฤติกรรมลูกค้าได้อย่างลึกซึ้ง นำไปสู่การตัดสินใจทางธุรกิจที่แม่นยำ และการวางแผนกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ
ต้องเลือก CRM Software อย่างไรให้เหมาะกับธุรกิจ
การเลือก CRM Software ที่เหมาะสมเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้การใช้งานมีประสิทธิภาพสูงสุด มาดูปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือก CRM Software กัน
ความง่ายในการใช้งาน
ระบบควรมีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน พนักงานสามารถเรียนรู้ และเริ่มใช้งานได้อย่างรวดเร็ว เพื่อลดเวลาในการฝึกอบรม และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
ความสามารถในการปรับแต่ง
CRM Software ที่ดีควรสามารถปรับแต่งให้เข้ากับกระบวนการทำงาน และความต้องการเฉพาะของธุรกิจได้ ทั้งในด้านการจัดการข้อมูล การรายงาน และการติดตามผล
การรองรับการเติบโต
เลือกระบบที่สามารถรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต ทั้งในแง่ของจำนวนผู้ใช้งาน ปริมาณข้อมูล และฟีเจอร์การใช้งานที่อาจต้องการเพิ่มเติม
สรุปได้ว่า CRM Software คือเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยยกระดับการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า และตอบโจทย์ธุรกิจที่กำลังขยายอย่างต่อเนื่อง และมีปัญหาในเรื่องการบริการ ซึ่งนอกจากระบบนี้แล้ว การทำ SMS Marketing หรือเลือกใช้บริการส่งข้อความ SMS จาก deeSMSX เพื่อทำการตลาด ทั้งการส่งโปรโมชัน มอบสิทธิพิเศษ หรือแจ้งข่าวสารให้กับสมาชิก ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยรักษาลูกค้าไว้ได้ในต้นทุนที่ต่ำ และสามารถติดตามวัดผลได้ตลอดเวลา ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 02-095-5168 Line @deecom หรือ เฟซบุ๊ก deeSMSX
by Anga Team | 25 Feb 2025 | General
การทำการตลาดในปัจจุบันไม่ใช่แค่การโฆษณา หรือขายของอย่างเดียวอีกต่อไป แต่ต้องสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า และส่งมอบคุณค่าที่แท้จริง Inbound Marketing คือหนึ่งในกลยุทธ์ที่สามารถแก้ปัญหานี้ได้อย่างตรงจุด แต่อะไรคือ Inbound Marketing วันนี้ deeSMSX จะพามาทำความเข้าใจไปพร้อม ๆ กัน
Inbound Marketing คืออะไร
Inbound Marketing คือ กลยุทธ์การตลาดที่เน้นการสร้างแรงดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาหาแบรนด์ด้วยตัวเอง ผ่านการส่งมอบคอนเทนต์ที่มีคุณค่า และตรงใจกลุ่มเป้าหมาย แทนที่จะเป็นการยัดเยียดโฆษณา หรือข้อมูลสินค้าแบบเดิม ๆ
Inbound Marketing กับ Outbound Marketing ต่างกันอย่างไร
ในขณะที่ Outbound Marketing เน้นการส่งสารไปหาลูกค้าผ่านช่องทางต่าง ๆ แบบทั่วถึง แต่ Inbound Marketing คือการทำให้ลูกค้าค้นพบแบรนด์เองในจังหวะที่พวกเขากำลังต้องการข้อมูล หรือทางออกสำหรับปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่ ทำให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทำไม Inbound Marketing สำคัญต่อการเติบโตของธุรกิจ
ในยุคที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป Inbound Marketing คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน โดยยังมีที่ยืนในตลาดด้วยสาเหตุเหล่านี้
สร้างความไว้วางใจจากลูกค้าผ่านการให้ข้อมูลที่มีคุณค่า
เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้าแทนการขายแบบครั้งเดียวจบ
เพิ่มโอกาสในการได้ลูกค้าที่มีคุณภาพและพร้อมจะจ่าย
กลยุทธ์สำคัญในการทำ Inbound Marketing
การทำ Inbound Marketing ให้ประสบความสำเร็จต้องอาศัยการวางแผนที่รอบคอบและการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยมีองค์ประกอบสำคัญ 3 ส่วน
Attract : ดึงดูดลูกค้าด้วยเนื้อหาที่มีคุณค่า
Inbound Marketing คือการสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ และตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นบทความ วิดีโอ หรือสื่อในรูปแบบต่าง ๆ ที่ช่วยแก้ปัญหาและให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์
Engage : สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า
เมื่อดึงดูดความสนใจได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการสร้างการมีส่วนร่วม และพัฒนาความสัมพันธ์ผ่านการตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างตรงจุด
Delight : สร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม
การสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า คือหัวใจสำคัญที่จะทำให้พวกเขากลับมาใช้บริการซ้ำ เพราะประสบการณ์ที่ดี จะช่วยให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ได้ในระยะยาว
ข้อดีของ Inbound Marketing ที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโต
เมื่อรู้กันไปแล้วว่า Inbound Marketing คืออะไร และมีหลักในการปรับใช้อย่างไร ทีนี้เรามาดูข้อดีกันต่อบ้าง
1. ลดค่าใช้จ่ายในการตลาด
Inbound Marketing คือวิธีการทำการตลาดที่ช่วยประหยัดงบประมาณในระยะยาว เพราะคอนเทนต์ที่สร้างขึ้นสามารถใช้ได้อย่างต่อเนื่อง และสร้างผลลัพธ์ได้แม้ไม่มีการลงทุนเพิ่ม เมื่อเทียบกับการทำโฆษณาแบบดั้งเดิมที่ต้องใช้งบประมาณสูงและต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังช่วยลดต้นทุนการหาลูกค้าใหม่ เพราะการสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพจะดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาหาแบรนด์เอง
2. ได้ลูกค้าที่มีคุณภาพสูง
การที่ลูกค้าค้นพบแบรนด์ผ่านคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ และตรงกับความต้องการ ทำให้ได้ลูกค้าที่มีความสนใจจริงและมีแนวโน้มที่จะตัดสินใจซื้อสูง เพราะพวกเขาได้ศึกษาข้อมูลและเข้าใจคุณค่าของสินค้า หรือบริการก่อนการตัดสินใจ ส่งผลให้อัตราการปิดการขายสูงขึ้น และได้ลูกค้าที่มีความภักดีต่อแบรนด์มากกว่า
3. เพิ่มโอกาสในการขายและการตลาดที่ยั่งยืน
การสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าผ่าน Inbound Marketing ไม่เพียงช่วยให้เกิดการซื้อซ้ำ แต่ยังนำไปสู่การบอกต่อแบบปากต่อปาก ซึ่งเป็นการตลาดที่ทรงพลังที่สุด ลูกค้าที่ประทับใจจะกลายเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ที่ช่วยขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้นโดยธรรมชาติ
เคล็ดลับการทำ Inbound Marketing ให้ประสบความสำเร็จ
การจะทำ Inbound Marketing ให้ได้ผลนั้น มีเคล็ดลับสำคัญ ดังนี้
สร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพโดยทำความเข้าใจ Pain Points ของกลุ่มเป้าหมายอย่างลึกซึ้ง นำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์ผ่านรูปแบบที่น่าสนใจ เช่น บทความ วิดีโอ หรืออินโฟกราฟิก โดยมุ่งเน้นการให้คุณค่ามากกว่าการขายตรง
ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้ง Google Analytics และ Social Media Insights เพื่อติดตามพฤติกรรมผู้ใช้ การมีส่วนร่วม และอัตราการแปลงเป็นลูกค้า นำข้อมูลมาปรับปรุงกลยุทธ์การตลาดอย่างต่อเนื่อง
พัฒนากลยุทธ์ SEO แบบครบวงจร ตั้งแต่การวิจัยคีย์เวิร์ด วิเคราะห์คู่แข่ง และปรับแต่งเว็บไซต์ให้เป็นมิตรกับ Search Engine ทั้งโครงสร้างเว็บไซต์และ Meta Tags เพื่อให้คอนเทนต์ติดอันดับการค้นหาที่ดี
สร้างระบบติดตามและประเมินผลที่มีประสิทธิภาพ กำหนด KPIs ที่ชัดเจน วิเคราะห์ ROI ของแต่ละแคมเปญ และปรับปรุงกลยุทธ์อย่างต่อเนื่องตามผลลัพธ์ที่ได้
สรุปได้ว่า Inbound Marketing คือกลยุทธ์การตลาดที่เน้นการสร้างคุณค่า และความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับลูกค้า ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคงในระยะยาว หากคุณต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำการตลาดของคุณ การใช้บริการ SMS Marketing จาก deeSMSX ก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่จะช่วยเสริมกลยุทธ์ Inbound Marketing ของคุณให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นได้อย่างแน่นอน ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 02-095-5168 Line @deecom หรือ เฟซบุ๊ก deeSMSX