ในโลกการตลาดดิจิทัลที่มีการแข่งขันสูง การสร้าง Call To Action คือเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้งานผ่านช่องทาง SMS ซึ่งเป็นช่องทางที่มีอัตราการเปิดอ่านสูงถึง 98% Call To Action ที่ดีสามารถเปลี่ยนผู้อ่านให้กลายเป็นลูกค้าได้ในเวลาอันรวดเร็ว วันนี้ deeSMSX จะพาคุณไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Call To Action และวิธีการใช้งานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดผ่าน SMS Marketing
Call To Action คืออะไร ทำไมถึงสำคัญ
Call To Action หรือ CTA คือ ข้อความหรือคำสั่งที่ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นให้ผู้อ่านหรือผู้รับสารทำการตอบสนองในทันที ไม่ว่าจะเป็นการซื้อสินค้า, สมัครสมาชิก, ดาวน์โหลดเอกสาร หรือทำกิจกรรมอื่น ๆ ที่ผู้ส่งสารต้องการ Call To Action จึงเปรียบเสมือนสะพานที่เชื่อมระหว่างความสนใจของลูกค้ากับการตัดสินใจซื้อสินค้าหรือใช้บริการ
เข้าใจความสำคัญของ Call To Action ในธุรกิจ
- ช่วยลดความลังเลของลูกค้า : Call To Action ที่ชัดเจนจะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
- เพิ่มอัตราการตอบสนอง : SMS ที่มี Call To Action ที่ดีจะได้รับการตอบสนองมากกว่า
- สร้างความเร่งด่วน : Call To Action ที่ใช้เทคนิคสร้างความเร่งด่วนช่วยกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจเร็วขึ้น
- วัดผลได้ง่าย : การใช้ Call To Action ที่เฉพาะเจาะจงทำให้วัดผลความสำเร็จของแคมเปญได้ชัดเจน
ประเภทของ Call To Action ที่นิยมใช้ในการตลาด

เมื่อพูดถึง Call To Action ในการตลาด เราสามารถแบ่งได้หลายประเภทตามวัตถุประสงค์การใช้งาน ซึ่งแต่ละประเภทก็มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นการตอบสนองที่แตกต่างกัน ดังนี้
- Call To Action แบบเร่งรัดการซื้อ : “ซื้อเลยวันนี้”, “สั่งตอนนี้รับส่วนลด 20%”
- Call To Action แบบสร้างการมีส่วนร่วม : “แชร์ความเห็นของคุณ”, “ตอบกลับ YES เพื่อรับสิทธิ์”
- Call To Action แบบให้ข้อมูลเพิ่มเติม : “คลิกเพื่อดูรายละเอียด”, “พิมพ์ INFO ส่งมาที่เบอร์นี้”
- Call To Action แบบจำกัดเวลา : “โปรโมชันหมดวันนี้”, “เหลือเวลาอีกแค่ 24 ชั่วโมง”
- Call To Action แบบสร้างความสัมพันธ์ : “เข้าร่วมกลุ่มลูกค้า VIP”, “สมัครรับข่าวสารเฉพาะคนพิเศษ”
จิตวิทยาการใช้ Call To Action ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจ
Call To Action ที่มีประสิทธิภาพมักอาศัยหลักจิตวิทยาการตลาดเพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ ผู้ทำการตลาดที่เข้าใจจิตวิทยาเหล่านี้จะสามารถออกแบบ Call To Action ที่โดนใจกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้นตามตัวอย่าง ดังนี้
- ความกลัวพลาดโอกาส (FOMO) : Call To Action ที่สร้างความรู้สึกว่าโอกาสกำลังจะหมดไป เช่น “เหลือสินค้าจำนวนจำกัด”
- ความนิยมที่ได้รับ : Call To Action ที่แสดงให้เห็นว่ามีคนอื่น ๆ ทำเช่นกัน เช่น “ลูกค้ากว่า 10,000 คนไว้วางใจเรา”
- ความเร่งด่วน : Call To Action ที่กำหนดกรอบเวลาจำกัด เช่น “โปรโมชั่นหมดวันนี้เท่านั้น”
- การให้ตัวเลือกที่ง่าย : Call To Action ที่ทำให้การตอบสนองทำได้ง่าย เช่น “ตอบ YES เพื่อยืนยัน”
- การนำเสนอคุณค่า : Call To Action ที่เน้นประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ เช่น “ประหยัดทันที 500 บาท”
หลักการเขียน Call To Action ที่มีประสิทธิภาพสำหรับข้อความ SMS
การเขียน Call To Action สำหรับ SMS มีข้อจำกัดด้านพื้นที่และเวลาในการอ่านของผู้รับ จึงต้องใช้เทคนิคพิเศษเพื่อให้ Call To Action สามารถกระตุ้นการตอบสนองได้สูงสุด มีแนวทางดังนี้
- ใช้คำที่สั้น กระชับ และเข้าใจง่าย : Call To Action ใน SMS ต้องใช้คำที่สื่อความหมายได้ชัดเจนในพื้นที่จำกัด
- สร้างความเร่งด่วน : Call To Action ควรบอกให้ผู้อ่านรู้สึกว่าต้องตอบสนองทันที
- ระบุผลประโยชน์ที่จะได้รับ : Call To Action ที่ดีควรบอกว่าลูกค้าจะได้อะไรจากการตอบสนอง
- ใช้คำสั่งที่ชัดเจน : Call To Action ควรบอกลูกค้าอย่างชัดเจนว่าควรทำอะไรต่อไป
- ทำให้การตอบสนองง่ายที่สุด : Call To Action ใน SMS ควรทำให้ลูกค้าสามารถตอบสนองได้ในทันทีโดยไม่ยุ่งยาก
เทคนิคการเขียน CTA ในข้อความ SMS ที่มีพื้นที่จำกัด
เนื่องจาก SMS มีข้อจำกัดด้านความยาวของข้อความ การเขียน Call To Action จึงต้องใช้เทคนิคพิเศษเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดในพื้นที่จำกัด
- ใช้คำกริยาที่กระตุ้นการกระทำ : เริ่ม Call To Action ด้วยคำกริยาที่สื่อถึงการกระทำ เช่น “ซื้อ”, “คลิก”, “สมัคร”, “รับ”
- หลีกเลี่ยงคำฟุ่มเฟือย : ตัดคำที่ไม่จำเป็นออกจาก Call To Action เพื่อให้กระชับและตรงประเด็น
- เพิ่มตัวเลขเฉพาะเจาะจง : Call To Action ที่ใช้ตัวเลขเฉพาะเจาะจง เช่น “ประหยัด 35%” แทนที่จะเป็น “ประหยัดมาก” จะได้ผลดีกว่า
- ใช้สัญลักษณ์แทนคำยาว : การใช้สัญลักษณ์ใน Call To Action เช่น ใช้ “+” แทน “และ” ช่วยประหยัดพื้นที่
- สร้างรหัสสั้น ๆ : Call To Action ที่ใช้รหัสสั้นๆ เช่น “พิมพ์ SALE ส่งมาที่ 4242” จะจดจำและตอบสนองได้ง่าย
ช่วงเวลาและความถี่ที่เหมาะสมในการส่ง SMS ที่มี CTA
เวลาและความถี่ในการส่ง SMS ที่มี Call To Action มีผลต่อประสิทธิภาพอย่างมาก การเลือกช่วงเวลาและความถี่ที่เหมาะสมจะช่วยให้ Call To Action ของคุณได้ผลมากขึ้น
- วันที่ควรส่ง : การส่ง SMS ที่มี Call To Action ในวันธรรมดา (อังคาร-พฤหัสบดี) มักได้ผลดีกว่าวันหยุด
- ช่วงเวลา : Call To Action ที่ส่งในช่วง 10.00-14.00 น. และ 17.00-19.00 น. มักได้รับการตอบสนองสูง
- ความถี่ : ไม่ควรส่ง SMS ที่มี Call To Action เดียวกันบ่อยเกินไป ควรเว้นระยะห่างอย่างน้อย 3-5 วัน
- เทศกาลพิเศษ : Call To Action ที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลควรส่งล่วงหน้า 1-2 สัปดาห์
กลยุทธ์การใช้ Call To Action ใน SMS Marketing ให้ได้ผล

การใช้ Call To Action ใน SMS Marketing ให้ได้ผลต้องอาศัยกลยุทธ์ที่ครอบคลุมและเชื่อมโยงกับเป้าหมายทางธุรกิจ นี่คือกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยให้ Call To Action ของคุณมีประสิทธิภาพ มีดังนี้
- เชื่อมโยง Call To Action กับข้อเสนอที่น่าสนใจ : Call To Action ที่มาพร้อมกับข้อเสนอพิเศษจะได้รับการตอบสนองมากกว่า
- สร้างความต่อเนื่อง : ใช้ Call To Action ที่เชื่อมโยงกับแคมเปญในช่องทางอื่น ๆ
- ตั้งเป้าหมายเฉพาะสำหรับแต่ละ Call To Action : กำหนดว่าคุณต้องการให้ Call To Action แต่ละอันนำไปสู่ผลลัพธ์อะไร
- ใช้ลิงก์ที่ติดตามได้ : หาก Call To Action ต้องการให้คลิกลิงก์ ควรใช้ลิงก์ที่สามารถติดตามการคลิกได้
- ทดสอบ Call To Action แบบต่าง ๆ : ทดลองใช้ Call To Action หลายๆ แบบเพื่อหาว่าแบบไหนได้ผลดีที่สุด
การปรับแต่ง CTA ให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน
Call To Action ที่มีประสิทธิภาพสูงคือ Call To Action ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับกลุ่มเป้าหมายนั้นๆ การปรับแต่ง Call To Action ให้เหมาะกับแต่ละกลุ่มเป้าหมายจะช่วยเพิ่มอัตราการตอบสนอง เราลองมาดูตัวอย่างกัน
- ตามข้อมูลประชากรศาสตร์ : ปรับ Call To Action ให้เหมาะกับเพศ อายุ และรายได้ของกลุ่มเป้าหมาย
- ตามพฤติกรรมการซื้อ : Call To Action สำหรับลูกค้าที่เคยซื้อแล้วควรต่างจาก Call To Action สำหรับลูกค้าใหม่
- ตามตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ : ปรับ Call To Action ให้เกี่ยวข้องกับพื้นที่ที่ลูกค้าอาศัยอยู่
- ตามความสนใจ : Call To Action ที่สอดคล้องกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมายจะได้ผลดีกว่า
- ตามช่วงเวลาของวงจรการซื้อ : ลูกค้าที่อยู่ในช่วงต่าง ๆ ของวงจรการซื้อต้องการ Call To Action ที่แตกต่างกัน
จากตัวอย่างเหล่านี้ จะเห็นได้ว่าการใช้ Call To Action ที่ออกแบบมาอย่างดีใน SMS Marketing สามารถสร้างผลลัพธ์ที่น่าประทับใจให้กับธุรกิจได้ โดยกุญแจสำคัญคือการเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย การใช้ข้อความที่กระชับและตรงประเด็น และการเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม แต่สำคัญที่สุด ก็คือการเลือกผู้ให้บริการส่ง SMS ที่มีประสิทธิภาพอย่าง deeSMSX ที่ช่วยให้การทำธุรกิจของคุณไม่มีสะดุด ในราคาเริ่มต้นที่ 0.15 บาท / ข้อความ ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 02-095-5168 Line @deecom หรือ เฟซบุ๊ก deeSMSX